ความสามารถในการฟื้นตัว ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

17 ตุลาคม 2568

    * บทแปลโดยคร่าว

    เรียนท่านรองนายกรัฐมนตรี คอร์เรอา แห่งสาธารณรัฐกาบูเวร์ดี ดิฉันขอขอบคุณและหวังว่าการเดินทางในอนาคตข้างหน้า จะพาดิฉันไปยังชายฝั่งที่สวยงามของประเทศของคุณ และดื่มด่ำไปกับท่วงทำนองเพลงของคุณเซซาเรียเอโวรา หรือเสียงเชียร์แห่งชัยชนะในการแข่งขันฟุตบอล! ขอแสดงความยินดีกับทีมชาติของคุณที่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก!

    คุณอาเจย์ ประธานธนาคารโลก ดิฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่เป็นเพื่อนร่วมงานที่เหมาะสมไปกว่าคุณ ดิฉันขอขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นและความพยายามเต็มที่ของคุณอย่างไม่ลดละในการทำงานเพื่อการสร้างงาน

    ดังที่คุณอาเจย์ชี้ให้เห็น โลกกําลังเผชิญหน้ากับการแบ่งแยกประชากรครั้งใหญ่ ประการแรก เราเห็นกลุ่มประเทศที่ต้องรับมือกับปัญหาประชากรที่ลดลงและสูงอายุ จากนั้นกลุ่มที่อยู่ตรงกลาง และสุดท้าย พื้นที่ใหญ่ในแอฟริกาและบางส่วนของตะวันออกกลางและเอเชียกลางที่การเติบโตของประชากรเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับแรงงานรุ่นเยาว์ (ภาพที่ 1)

    1-Plenary-Charts

    ขอต้อนรับสมาชิกทั่วโลกของเราที่ดิฉันเห็น ณ ที่นี้ และใคร่ขอเรียนให้ทราบตอนนี้เลยว่า ข้อมูลเชิงลึกใด ๆ ที่ดิฉันจะแบ่งปันในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของทีมงานที่ทรงคุณวุฒิและทุ่มเทในการทำงานของไอเอ็มเอฟทุกท่าน ขอแสดงความเคารพอย่างยิ่งต่อพนักงาน 4,084 คนจาก 172 ประเทศ

    เจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟทุกท่านในห้องประชุมนี้ ทั้งผู้จัดการและพนักงาน กรุณาแสดงตัวค่ะ ตั้งแต่คุณ แดน แคตซ์ (Dan Katz) รองกรรมการผู้จัดการคนใหม่ และสมาชิกผู้บริหารทุกท่าน โปรดยืนขึ้น

    ***

     ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ครั้งล่าสุดที่เราพบกันในสถานที่แห่งนี้

    ความไม่แน่นอนในโลกยังคงสูงอยู่และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความเชื่อมั่นยังคงเป็นไปในเชิงบวกอย่างเข้มแข็ง (ภาพที่ 2) กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราเห็นทั้งความวิตกกังวลและความสามารภในการฟื้นตัวปะปนกัน วันนี้ดิฉันต้องการจะพิจารณาถึงทั้งสองเรื่องนี้

    2-Plenary-Charts

    ประการแรก ความวิตกกังวล

    ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ สภาพภูมิอากาศ หรือการค้า การเปลี่ยนแปลงมักจะสร้างความกังวลใจ ระบบการค้าโลกที่มอบสิ่งดี ๆ มากมายให้กับผู้คนจํานวนมากมายกำลังถูกทำให้สั่นคลอนถึงราก ด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงสนามแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง และผู้คนที่ถูกทอดทิ้งไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เพียงพอในการปรับตัวเพื่องานใหม่ที่ดีกว่าเดิม

    เราเห็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ตั้งแต่เรื่องการที่ต้องขอใบอนุญาตเพื่อการนําเข้า จนถึงการควบคุมการส่งออกและค่าธรรมเนียมท่าเรือ โดยสถิติจำนวนเงินอุดหนุนไม่ได้แสดงให้เห็นภาพรวมทั้งหมด (ภาพที่ 3) เราเห็นทั้งนโยบายอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นไปตามกลไกลตลาด และการบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยน

    3-Plenary-Charts

    และที่แน่นอนเรายังมีอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นในปีนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังมีขอมูลจริงที่สำคัญคือ จนถึงขณะนี้ มีสมาชิกของเรา 188 ประเทศจากทั้งหมด 191 ประเทศที่หลีกเลี่ยงการดำเนินนโยบายอัตราภาษีศุลกากรแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

    ดิฉันยินดีที่เห็นประเทศสมาชิกส่วนใหญ่แสดงความยับยั้งชั่งใจ เพราะประเทศสมาชิกทราบดีว่า อุปสรรคทางการค้าสร้างความเสียหายต่อทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลิตภาพ และประเทศสมาชิกพิจารณาคำร้องขอร้องให้โปรดรักษาการค้าไว้เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

    ณ จุดนี้ แม้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นมากมาย แต่ประมาณการว่า การค้าโลกร้อยละ 72 ยังคงดำเนินการภายใต้เงื่อนไขการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง (most-favored-nation-terms)  โดยประเทศต่าง ๆ จะนำอัตราภาษีศุลกากรทวิภาคีที่ต่ำที่สุดมาเสนอให้กับคู่ค้าทุกราย

    การค้ามิใช่เกมที่ต้องมีแพ้มีชนะ หากบริษัทสามารถรักษาห่วงโซ่อุปทานที่หลากหลายและแข็งแกร่งได้ หากรัฐบาลสามารถรักษาความเป็นอิสระเชิงกลยุทธ์และช่วยเหลือผู้ที่ขาดดุลการค้าได้ และหากดุลภายนอกไม่ใหญ่เกินควร การนำเข้าและส่งออกจะช่วยยกระดับสวัสดิภาพของประชาชน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความไม่แน่นอนในปัจจุบันเกี่ยวกับนโยบายการค้าและความเสี่ยงที่จะสูญเสียการค้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจกําลังสร้างความวิตกกังวล

    ขออนุญาตกล่าวถึงความสามารถในการฟื้นตัวบ้าง

    แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ที่เราเห็นในปีนี้ แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังคงทรงตัวอยู่ ณ เวลานี้พอประมาณ ซึ่งขัดกับการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญหลายคนก่อนหน้านี้ เราคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงจากร้อยละ 3.3 เมื่อปีที่แล้วเป็นร้อยละ 3.2 ในปี 2568 และร้อยละ 3.1 ในปี 2569 ซึ่งถือว่าช้ากว่าที่ต้องการ และต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้หนึ่งปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ชะลอตัวลงอย่างรุนแรงอะไรนัก

    เหตุผลหนึ่งที่เห็นความทนทานในครั้งนี้คือความสามารถในการปรับตัวของภาคเอกชน ดังจะเห็นได้จากการดำเนินการสั่งซื้อนำเข้าล่วงหน้าก่อนการขึ้นภาษี การสร้างสต็อคสินค้า และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน ผลกำไรที่แข็งแกร่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าสามารถบีบส่วนต่างของอัตรากำไรให้ต่ำลง ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบด้านราคาต่อผู้บริโภคจากภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นได้ อย่างน้อยถึงบัดนี้

    อีกเหตุผลหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นดาบสองคมก็คือ การลงทุนของภาคเอกชนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในสหรัฐฯ กำลังเฟื่องฟู (ภาพที่ 4) สถานการณ์นี้กําลังสนับสนุนอุปสงค์ของสหรัฐฯ และการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และส่งมอบภาวะการเงินที่ที่เอื้อต่อการลงทุนอย่างยิ่งให้กับทุกฝ่าย

    4-Plenary-Charts

    ศักยภาพของ AI อาจสร้างความคาดหวังที่ดี แต่เราควรระวังความเสี่ยงต่อที่มาจากความชะล่าใจ

    นับตั้งแต่ระบบทางรถไฟไปจนถึงอินเทอร์เน็ต ประวัติศาสตร์การตอบสนองของตลาดการเงินต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ก้าวล้ำล้วนเป็นเรื่องราวของการประเมินค่าสูงเกินไปและการปรับฐานของตลาด เช่น เหตุการณ์ยุคดอทคอมและผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ (ภาพที่ 5) โลกเราควรชาญฉลาดในการบริหารความเสี่ยงดังกล่าว

    5-Plenary-Charts

    แล้วจะบริหารความเสี่ยงอย่างไร? เราจำเป็นต้องมีการกำกับดูแลภาคการเงินที่เข้มแข็ง ตระหนักถึงการรับความเสี่ยงที่มากเกินไป และความเชื่อมโยงระหว่างธนาคารที่เพิ่มขึ้น องค์กรที่ไม่ใช่ธนาคาร และสกุลเงินดิจิทัล จำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินที่รอบคอบ

    คำแนะนำนี้และคำแนะนำอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกันเน้นย้ำการเฝ้าระวังระดับพหุภาคีของเรา โดยที่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO)รายงานเสถียรภาพการเงินโลก (GFSR) และรายงานการสังเกตการณ์สถานะทางการคลัง (Fiscal Monitor) ทีเราได้เผยแพร่แล้วในสัปดาห์นี้ ล้วนให้ความกระจ่างและพร้อมเสนอแนะแนวทางให้ประเทศสมาชิกการก้าวไปข้างหน้า

    กิจกรรมการเฝ้าระวังระดับทวิภาคีของเรา ซึ่งดำเนินการผ่านการให้คำปรึกษาเป็นประจำกับประเทศสมาชิกทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศตลาดเกิดใหม่ และประเทศที่มีรายได้น้อย เช่นเดียวกับโครงการประเมินภาคการเงินของเรา ได้กลั่นกรองคำปรึกษาระดับพหุภาคีของเราให้กลายเป็นคำแนะนำด้านนโยบายที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ

    ในการประชุมครั้งแล้วครั้งเล่าในสัปดาห์นี้ ดิฉันได้แนะนำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางให้ไม่เพียงแต่บรรเทาความเสี่ยงระยะใกล้เท่านั้น แต่ยังต้องมองไปไกลกว่านั้นเช่นกัน โดยรักษาสถาบันที่เป็นอิสระ มีความรับผิดชอบ และเกิดประสิทธิผล และค้นหา นำมา และส่งมอบโอกาสที่การเปลี่ยนแปลงนำมาให้ได้เสมอ

    เราเล็งเห็นเป้าหมายระยะกลางสามประการ:

    • ประการแรก การฟื้นฟูฐานะการเงินของรัฐบาล การดำเนินการนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถรับมือกับแรงกระแทกใหม่ ๆ และตอบสนองความจำเป็นเร่งด่วนได้โดยไม่ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนสูงขึ้น กระทรวงการคลังไม่ควรรอให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้นเป็นตัวช่วย ในทางตรงกันข้าม การรัดเข็มขัดทางการคลังสามารถปลดปล่อยเงินทุนที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่นําโดยภาคเอกชน
    • ประการที่สอง การปรับสมดุลทั้งภายในและภายนอกประเทศ การดำเนินการนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรับประกันว่าความไม่สมดุลของเศรษฐกิจมหภาคที่มากเกินควรจะไม่นำไปสู่ความเสียหาย เราจำเป็นต้องดำเนินการรัดเข็มขัดทางการคลังในบางแห่ง และดำเนินนโยบายเพื่อยกระดับอุปสงค์ภายในประเทศในอีกบางแห่ง
    • และประการที่สาม การยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การดำเนินการนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถสร้างงานมากขึ้น สร้างรายได้สาธารณะมากขึ้น และมีความยั่งยืนเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะและหนี้ภาคเอกชน

    การยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องมีปัจจัยสามประการ ได้แก่ (1) การปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนการทำงานของภาคเอกชน (2) การบูรณาการระดับภูมิภาคให้ลึกยิ่งขึ้น และ (3) การเตรียมความพร้อมเพื่อใช้ประโยชน์จาก AI

    การปัดฝุ่นกฎระเบียบและการบูรณาการระดับภูมิภาคมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด กฎระเบียบและข้อบังคับภาครัฐหลายข้อในปัจจุบัน ยังมีการจำกัดภาคเอกชนในการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้า บริการ ผู้คน เงินทุน และแนวความคิด โดยกฎระเบียบหลายข้อยังทำหน้าที่เป็นอุปสรรคในรูปแบบที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ซึ่งอุปสรรคดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สนามแข่งขันระดับโลกไม่เท่าเทียมกัน

    ในโลกยุคใหม่ที่มีการทำข้อตกลงระดับทวิภาคีและพหุภาคี เราเห็นภูมิทัศน์การค้าโลกที่มีความหลากหลาย เศรษฐกิจขนาดเล็กที่พึ่งพาการส่งออกอย่างมากเป็นฝ่ายรับจากเศรษฐกิจอื่น ในขณะที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างไม่เปิดเสรีหรือควบคุมปัจจัยการผลิตสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก มีอำนาจการต่อรอง เมื่อดูแต้มต่าง ๆ ที่หมายถึงประเทศต่าง ๆ ตามขนาดของการนําเข้าและการเปิดเสรีทางการค้า ควอแดรนท์ล่างขวามีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและเปิดเสรีน้อยที่สุด (ภาพที่ 6)

    6-Plenary-Charts

    หลายประเทศจึงพยายามสร้างความแข็งแกร่งและใช้เสียงผ่านทางความสามัคคี เราเห็นกลุ่มการค้าของโลก (Trading blocs)  ซึ่งแต่ละกลุ่มมีขนาดและน้ําหนักมากกว่าประเทศสมาชิกแต่ละประเทศ (ภาพที่ 7) คําแนะนําของเราสําหรับกลุ่มการค้าของโลกเหล่านี้คือ ลดความขัดแย้งกันภายในและก้าวไปข้างหน้าด้วยการบูรณาการเพื่อความทนทานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

    7-Plenary-Charts

    สุดท้าย ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเร่งการเติบโตทางผลิตภาพทั่วโลกคือ AI เราคาดการณ์ว่าประโยชน์จาก AI จะเพิ่มความสามารถในการผลิตทั่วโลก 0.1–0.8 จุดร้อยละต่อปี

    อย่างไรก็ตาม AI จะพรากงานในปัจจุบันหลายล้านตำแหน่ง ซึ่งผู้กำหนดนโยบายจําเป็นต้องช่วยผู้คนให้รับมือกับช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ได้ง่ายขึ้น วิชาชีพเก่าบางอย่างจะค่อย ๆ หายไป ส่วนงานใหม่ ๆ จะเกิดขึ้น เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลขนาดใหญ่ วิศวกรเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech เราควรพึงระลึกว่าเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ ครั้งหนึ่งรถยนต์เข้ามาแทนที่ม้าและรถม้า

    กุญแจสำคัญในการได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเพิ่มขึ้นของผลิตภาพและการจัดการกับผลกระทบจาก AI คือ การเตรียมความพร้อม การวิจัยของเราพบว่า สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และเดนมาร์กเป็นผู้นํา ในขณะที่อีกหลายประเทศตามหลัง ดังนั้น เพื่อเป็นช่องทางถ่ายทอดแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลก เราจะพยายามช่วยเหลือประเทศสมาชิกทุกราย โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับผลกระทบระดับมหภาค

    ***

    ภายในองค์กร แน่นอนว่าเรากำลังก้าวไปด้านหน้ากับการนำ AI มาใช้ในองค์กรของเราเอง รวมถึงการนําความรู้เพิ่มเติมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ให้กับประเทศสมาชิก

    เรายกระดับผลิตภาพ โดยยังรักษากรอบวินัยงบประมาณที่เข้มงวด อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา โดยเราสามารถใช้จ่ายในการดำเนินงานจากรายได้ของเราเอง ไม่ต้องพึ่งพาการจัดสรรงบประมาณประจำปี และเรา ยังคงมุ่งมั่นอย่างจริงจังในการลดรายจ่าย

    แม้เศรษฐกิจโลกจะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นและมีการขยายบริการที่เราจัดให้กับประเทศสมาชิก แต่การใช้จ่ายด้านการบริหารของเราในปัจจุบันก็มีขนาดเกือบเท่ากันกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว (ภาพที่ 8)

    8-Plenary-Charts

    งานของเราในการพัฒนาขีดความสามารถ ประกอบไปด้วยการให้คำแนะนำด้านการดำเนินการ โดยมีโครงการเกือบ 3,000 โครงการที่ส่งมอบในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ทั้งการฝึกอบรมด้วยหลักสูตรมากกว่า 500 หลักสูตร ที่จัดบริการให้เจ้าหน้าที่มากกว่า 19,000 คนในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการจัดการประชุม ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีการประชุมตลาดเกิดใหม่ครั้งแรกของเราที่เมืองอัลอูลา ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งร่วมเป็นเจ้าภาพกับรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคุณ อัล‑จาดาน

    ในส่วนของกิจการการให้สินเชื่อของเรา ในปัจจุบันมีการให้เงินกู้กับ 43 ประเทศ โดยได้อนุมัติเงินกู้มูลค่า 37 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งในนั้นเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ได้อนุมัติเงินกู้ให้กับประเทศที่มีรายได้น้อย 9 ประเทศ

    ในโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง การที่ไอเอ็มเอฟมีเงินทุนครบครันจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ทั้งนี้ ขออนุญาตทวนคำขอสองเรื่องกับประเทศสมาชิกของเรา ดังต่อไปนี้:

    • เรื่องแรกคือ ฐานโควตาของเรา เรากำลังผลักดันเพื่อให้ได้ผลสำเร็จในการเพิ่มสูงขึ้นของโควตา เป็นร้อยละ50 ที่ได้ตกลงกันเมื่อปีที่แล้ว ดิฉันใคร่ขอให้ทุกประเทศสมาชิกที่ยังไม่ได้อนุมัติการเพิ่มโควตาโปรดดําเนินการโดยเร็ว
    • เรื่องที่สองคือ กองทุนเพื่อการลดความยากจนและเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Poverty Reduction and Growth Trust หรือ PRGT) ของเรา ซึ่งเป็นช่องทางหลักเพื่อการปล่อยกู้แบบเงื่อนไขผ่อนปรนให้แก่ประเทศที่มีรายได้น้อย โดยเรากำลังผลักดันการปฏิรูปที่ตกลงกันเมื่อปีที่แล้วเพื่อให้ PRGT อยู่บนเส้นทางสู่ความยั่งยืนในตนเอง ซึ่งรวมถึง (1) การแจกจ่ายเงินทุนถึง 4 พันล้านดอลลาร์ไปยังบัญชีชั่วคราวในระหว่างช่วงเวลา 5 ปี และ (2) การทำให้ร้อยละ 90 ของจำนวนเงินต้นในบัญชีชั่วคราวนี้ ผูกกำหนดไว้ให้ PRGT ในภายหลัง โดยจนถึงปัจจุบัน มี 20 ประเทศ ซึ่งล่าสุดรวมถึงอินเดีย และเมื่อวานนี้จีน ได้ให้การรับรอง และ ณ ตอนนี้การให้การรับรองเพิ่งขึ้นถึงร้อยละ 43 แต่การสนับสนุนในวงกว้างจากบรรดาประเทศสมาชิกยังคงจําเป็นในการขึ้นถึงร้อยละ 90 ดิฉันจึงขอความช่วยเหลือนี้จากสมาชิกทุกท่านด้วยค่ะ

    9-plenary-charts-updated

    สุดท้ายนี้ มีอีกเรื่องหนึ่งที่ดิฉันใคร่ขอแจ้งให้ท่านทราบคือ กองทุนควบคุมและบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ (Catastrophe Containment and Relief Trust หรือ CCRT) ซึ่งเป็นช่องทางของเราในการมอบเงินช่วยเหลือให้เปล่าเพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่มีรายได้น้อยให้สามารถชำระหนี้ที่ค้างชำระกับเราหากประเทศเหล่านั้นเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือภัยพิบัติทางสาธารณสุข เงินทุน CCRT ได้หมดลงในช่วงโควิดระบาด

    เราต้องมีเป้าหมายที่จะยังคงความสามารถไว้เพื่อจะช่วยเหลือสมาชิกที่ยากจนที่สุดของเรา เมื่อสมาชิกเหล่านี้เผชิญกับสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา โดยจำนวนเงินทุนที่ช่วยเหลือนั้นเป็นเงินหลักหลายล้าน แต่ก็ไม่ถึงหลักพันล้าน ดังนั้น เมื่อท่านกลับไปยังเมืองหลวงของท่าน ดิฉันขอเชิญชวนให้ทุกท่านพิจารณาเปิดการอภิปรายเกี่ยวกับการเติมเงินในกองทุน CCRT เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

    ***

    เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ดิฉันได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เรื่อง “The Economic Possibilities For My Grandchildren” (ความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจสำหรับชนรุ่นหลานของข้าพเจ้า) โดยมีเสียงคําพูดและภาพเคลื่อนไหวของคุณจอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ ที่หลายคนรู้จักกัน ประกอบสุนทรพจน์นั้น

    แล้วตอนนี้ 18 เดือนต่อมา โปรดดูอวาตาร์ AI ใหม่ของเคนส์ ซึ่งกำลังเดินเล่นอย่างสบาย ๆ ในฮอลล์แห่งนี้!

    ดิฉันคิดว่าคงไม่มีทางใดที่ดีไปกว่าการจบด้วยความสนุกสนานเล็กน้อยนี้ ซึ่งแม้การเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่ความวิตกกังวลมากมาย แต่ขอเชิญให้เรามองโลกในแง่ดี! ให้เรามารู้สึกถึงพลังใจที่เปี่ยมล้นด้วยความก้าวหน้าของมนุษยชาติที่จะมาถึงกันในปีหน้าดีกว่า!

    ขอบคุณค่ะ